ต้องรู้จักกินอาหารให้ถูก
กิน กิน กิน และกิน คุณทราบมั๊ยว่า การกินของกินบางแบบ เป็นต้นเหตุของการเกิดโรคมะเร็งได้ โดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ให้ข่าวสารไว้ว่าการทำตนให้มีความประพฤติที่เหมาะ และการบริโภคที่เหมาะจะสามารถป้องกันมะเร็งได้ 30-40% ของมะเร็งทั้งสิ้น ซึ่งจะลดจำนวนคนป่วยได้ 3-4 ล้านคนต่อปีและยังสามารถคุ้มกันโรคอื่น ๆ ได้อีก เช่น โรคหัวใจเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ฯลฯ
สำหรับการเลือกรับประทานของกิน เพื่อป้องกันการเกิดโรคมะเร็งนั้น สามารถทำได้โดย
1. การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เหมาะกับวัย โดยกินของกินให้หลากหลาย อย่ากินของกินแบบใดชนิดหนึ่งมากเป็นประจำ เพื่อให้ได้สารอาหารครบตามที่ตัวอยาก และเลี่ยงการเก็บสารพิษจากของกิน
2. เลือกกินของกินที่ทำด้วยธัญพืช เช่น เมล็ดถั่วต่าง ๆ งา ข้าวโพด ข้าวซ้อมมือ มันฝรั่ง มัน
3. กินผักผลไม้สดให้มากเป็นประจำตามฤดูกาลโดยควรกินให้ได้อย่างน้อยวันละ 500 กรัม หรือมากกว่าครึ่งของปริมาณอาหารที่กิน จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งได้ 20% หรือมากกว่า
4. กินอาหารที่มีไขมันต่ำ ในผู้ใหญ่ ชายหนุ่มควรได้พลังงานวันละ 2,000 แคลอรี สาว 1,600 แคลอรีและได้รับไขมันไม่เกิน 25-30%ของปริมาณพลังงานทั้งสิ้นต่อวัน
5. กินของกินที่เค็มน้อย และหวานน้อย โดยเกลือต้องไม่เกิน 1 ช้อนกาแฟ หรือ 6 กรัม ในของกินทั้งหมดของแต่ละวัน และควรกินน้ำตาลไม่เกิน 3 ช้อนโต๊ะต่อวัน
อาหารหลายๆ ชนิดที่มีสารก่อมะเร็งควรลดลง
6. ของกินหลายแบบต่อไปนี้มีสารก่อมะเร็ง ควรกินให้น้อยลง
7. ของกินจากเนื้อสัตว์ ปิ้ง ย่าง รมควัน ควรห่อด้วยกระดาษอะลูมิเนียม จะช่วยลดสารก่อโรคมะเร็ง และไม่ควรกินในส่วนที่ไหมเกรียม ถ้าให้ดีควรใช้วิธีต้ม นึ่ง อบ หรือใช้ไมโครเวฟ
8. ของกินหมัก ดองเค็ม และเนื้อสัตว์ตากแห้งที่ใส่ดินประสิว (โปแตสเซียมไนเตรท) และสารไนไตรท์สามารถเปลี่ยนเป็นสารไนโตรซามีน ซึ่งเป็นสารก่อโรคมะเร็งในตัวได้ จึงควรกินของกินกลุ่มนี้ให้น้อยลง วิตามินซีสามารถปกป้องการเกิดสารไนโตรซามีนในตัวได้จึงควรกินผักสดร่วมกับของกินแบบนี้
9. อาหารที่มีเชื้อราขึ้น อาจมีพิษอัลฟาทอกซินทำให้เกิดมะเร็งตับ
10. ในท้องที่ที่มีการกระจัดกระจายของพยาธิใบไม้ในตับไม่ควรกินปลาสุก ๆ ดิบ ๆ (ลาบปลา ก้อยปลา) ที่ทำมาจากปลาในตระกูลปลาตะเพียน หรือปลาน้ำสะอาดที่มีเกล็ด
11. ถ้ากินเนื้อสัตว์สีแดง เช่น เนื้อวัว เนื้อหมูในจำนวนที่มากเป็นเวลานาน จะเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งไม่ควรกินเกิน 80 กรัมต่อวัน
รู้อย่างนี้แล้ว กินของกินครั้งต่อไป เสียเวล่ำเวลาสักเล็กเลือกอาหารที่มีคุณค่าเพียงนั้น เพื่อสุขภาพอนามัยตัวของเรา
ความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก
ตอบลบ